วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การดูดไขมัน

ดูดไขมัน

ดูดไขมัน (Lipoplasty) หรือ “Liposculpture” เป็นการดูดไขมันส่วนเกินออกไปจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คอ, ใบหน้า, แขน, ท้อง, สะโพก, ขา, ฯลฯ เพื่อให้เกิดเป็นรูปร่างที่สวยงาม ซึ่งไม่เป็นเพียงการดูดไขมันออกไปจากร่างกายเท่านั้นแต่ยังจำเป็นต้องทำ ให้ผู้รับการรักษา มีรูปร่างสวยงามสมส่วนด้วย จึงจำเป็นต้องอาศัยความสามารถทางด้านประติมากรรม (Sculpturing) เข้าร่วมกับความรู้ทางด้านศัลยกรรมความงาม
การดูดไขมัน ไม่ใช่วิธีที่ใช้แทนการลดน้ำหนัก และการรักษาผิวที่ไม่เรียบ (Cellulite) ถึงแม้ว่าการดูดไขมันจะมีส่วนช่วยลดการเกิด Cellulite ได้ประมาณ 10 % หลังการผ่าตัด ซึ่งแพทย์ที่สถาบันศัลยกรรมความงามจะให้การรักษาเพิ่มเติมด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อช่วยลด Cellulite ให้น้อยลงยิ่งขึ้น
ผู้ที่เหมาะสมจะเข้ารับการดูดไขมัน
ไม่เป็นผู้ที่มีรูปร่างอ้วนทั้งตัว หรือมีน้ำหนักเกินปกติมาก ๆ
มีการสะสมของไขมันเฉพาะที่ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่ได้สัดส่วนที่สวยงามกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ไขมันที่สะสมนี้ไม่สามารถจะลดลงได้โดยการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย
ผู้เข้ารับการรักษาควรจะมีความยืดหยุ่นที่ดีของผิวหนัง เพื่อหลังจากการดูดไขมัน ผิวหนังจะมีความเรียบสวย
การดูดไขมัน บางครั้งใช้ในการลดขนาดเต้านมโตในผู้ชาย (Gynecomastia)
ขั้นตอนการรักษาที่ สถาบันศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลปิยะเวท เลือกใช้
ก่อนดูดไขมัน
การลดความเจ็บปวดจากการดูดไขมันทำได้ด้วยการให้ผู้เข้ารับการรักษารับประทานยาแก้ปวด และยานอนหลับ พร้อมการให้ยาชาเฉพาะที่ผสมสูตรพิเศษ โดยวิสัญญีแพทย์จะช่วยลดความเจ็บปวดด้วยวิธีต่าง ๆ ตามที่จะตกลงกัน และยังสามารถทำร่วมกับการผ่าตัดทางศัลยกรรมความงามอื่น ๆ ในขณะเดียวกันได้ หลังจากนั้นแพทย์จะฉีด น้ำเกลือที่ผสมยาชา และยาที่ทำให้หลอดเลือดเล็ก ๆ ตีบตัน ซึ่งแช่เย็นไว้ที่อุณหภูมิ 4 องค์ศา เข้าไปในบริเวณที่จะดูด โดยการใช้ Pump พิเศษ และหัวฉีดน้ำ Infuser แบบรูฝอย (Sprinkle Like) วิธีนี้เรียกว่า “Wet Technic” หรือ “Tumescent Technic” ซึ่งอาจจะฉีดสารละลายเข้าไปถึง 1000 – 2000 cc. ต่อจุด เรียกว่า “Superwet Technic” จุดประสงค์หลักเพราะสารละลายที่มีส่วนผสมของยา และความเย็นของสารละลายเองจะทำให้เลือดที่ออก ขณะดูดไขมันมีน้อย ส่งผลให้หลังผ่าตัดไม่เขียวช้ำหรือบวมนานนัก นอกจากนั้นความเย็น 4 องค์ศา ของสารละลายยังสามารถทำให้เกิดอาการชาของเส้นประสาท (Cold Anesthesia) ได้ระดับหนึ่งด้วย โดยในขณะดูดไขมันแพทย์จะทำการต่อท่อโลหะกลวงที่มีรูปแบบต่าง ๆ ที่ปลายเข้ากับเครื่องดูดสุญญากาศ ซึ่งหากต้องการที่จะดูดไขมันออกอย่างรวดเร็ว และจำนวนมาก ๆ จะใช้หัวดูดขนาดใหญ่ในระดับขั้นไขมันที่ลึก ถ้าต้องการดูดไขมันในระดับชั้นที่ตื้นเพี่อให้ผิวหนังหดตัวกลับมาใหม่จะใช้หัวดูดขนาดเล็กในระดับขั้นไขมันตื้นมาก ๆ เพื่อลดการเกิดความไม่เรียบและบุ๋มของผิวหนัง ซึ่งบาดแผลที่เกิดจากการเจาะเพื่อใส่หัวดูดไขมันมีขนาดไม่เกิน 6 มม. โดยซ่อนอยู่ในจุดที่มองเห็นลำบากซึ่งขึ้นกับบริเวณที่ดูดไขมัน
หลังการดูดไขมัน
แพทย์จะให้ใส่เสื้อผ้ารัดพิเศษ (Compressive Dressing Garment) เพื่อควบคุมรูปร่าง และลดการบวมของบริเวณ ที่จะดูดไขมัน ทั้งนี้การใส่เสื้อผ้ารัดจะต้องไม่ถอดออกเลยถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ใน 48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุด
การนอนพักที่โรงพยาบาลขึ้นอยู่กับปริมาณของเหลวที่ดูดออกมา และอาการหลังดูดไขมัน ว่าจะพร้อมกลับบ้านได้เลย หรือไม้โดยการตรวจของแพทย์ และพยาบาลในช่วยพักฟื้นหลังการผ่าตัดโดยละเอียด
อาการที่อาจเกิดหลังการดูดไขมัน
อาจมีอาการไม่สบายหรือปวด ซึ่งสามารถควบคุมได้โดยรับประทานยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรง (Potent Analgesic Drug) เสื้อผ้ารัดพิเศษอาจถอดออกได้หลัง 48 ชั่วโมง แต่แนะนำให้ใส่ต่อไปอีกเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดอาการบวม หรือมีเลือดออกเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติของการดูดไขมันที่จะค่อย ๆ ยุบหาย หรือจางหายในราว 2-3 สัปดาห์เช่นกัน
ข้อสังเกต วิธี Wet Technic สามารถทำให้ระยะเวลาในการพักฟื้นสั้นลง อาการปวด เขียวช้ำ เกิดขึ้นน้อยกว่าวิธีการแบบเดิมมาก
เมื่อไรจะสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ใน 2 – 3 วันหลังการดูดไขมัน และสามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ในเวลาประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ ส่วนการออกกำลังกายหนัก ๆ เช่น การวิ่ง, Fitness Exercise ควรเริ่มทำเมื่อร่างกายกับเข้าสู่ภาวะปกติในราว 1 เดือน
ผลที่ได้รับหลังจากการดูดไขมัน
อาจมีอาการบวมของผิวหนังภายหลังการดูดไขมัน ซึ่งอาจทำให้รูปร่างใหม่ภายหลังการดูดไขมันเห็นไม่รวดเร็วนัก สภาวะรูปร่างภายหลังการดูดไขมันอาจไม่สามารถบอกได้ในระยะเวลาที่แน่นอน อันเนื่องจากลักษณะเฉพาะ ของร่างกายแต่ละบุคคล แต่ในที่สุดแล้วท่านจะรู้สึกสบายในเสื้อผ้าขนาดใหม่ที่เล็กลง มีความมั่นใจในรูปร่าง และสัดส่วนของตัวเองมากขึ้น ทั้งนี้ผลของการดูดไขมันจะให้ผลอย่างถาวรหากมีการรักษาน้ำหนักให้คงที่หลังการผ่าตัด แต่หากแม้จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการรวมตัวของไขมันอย่างเห็นเด่นชัดดังเช่นก่อนการดูดไขมัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น